ประกันการเดินทาง สำคัญไฉน

หนึ่งสิ่งที่สำคัญก่อนออกเดินทางนั้น คือ ประกันการเดินทาง ประกันการเดินทางไม่ใช่เพียงคุ้มครองอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย แต่ประกันการเดินทางยังคุ้มครองกรณีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกรณี

• เครื่องบินล่าช้า 
• การคุ้มครองความสูญเสีย 
• การเสียหายของกระเป๋าเดินทาง เป็นต้น

การประกันภัยอุบัติเหตุการเดินทาง (Travel Accident Insurance หรือ TA) เป็นการประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองแก่ผู้เอาประกันภัย หากผู้เอาประกันภัยประสบอุบัติเหตุ และผลของอุบัติเหตุนั้นส่งผลให้ผู้เอาประกันภัยบาดเจ็บต้องได้รับการรักษาพยาบาล หรือสูญเสียอวัยวะ มือ เท้า และสายตา หรือเสียชีวิต แต่ทั้งนี้อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นจะต้องเกิดขึ้นภายในระยะเวลาระหว่างการเดินทางที่กำหนดไว้เท่านั้น เช่น คุ้มครองตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2559 – วันที่ 14 มกราคม 2560 ตลอดระยะเวลาที่ผู้เอาประกันภัยเดินทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-อเมริกา เป็นต้น

ผู้ที่ควรทำประกันอุบัติเหตุการเดินทาง ได้แก่ บุคคลและกลุ่มบุคคลทั่วไปทั้งคนไทย และคนต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ซึ่งต้องการเดินทางไปทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์

• เพื่อการท่องเที่ยว 
• เพื่อการติดต่อธุรกิจ 
• เพื่อการศึกษาดูงาน 
• เพื่อไปเยี่ยมญาติ 
• เพื่อการศึกษาระยะสั้นไม่เกิน 6 เดือน เป็นต้น

ขอบคุณข้อมูลจาก คปภ. ​https://www.oic.or.th/th/education/insurance/accident/travel

ปัจจุบัน บริษัทประกันมีให้เลือกมากมาย และมีแผนการคุ้มครองให้เลือกที่หลากหลาย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับผู้เดินทาง ว่าต้องการเลือกแผนแบบไหน และเบี้ยประกันถูกใจหรือไม่ และนอกจากนี้การยื่นขอวีซ่าบางประเภท เช่น วีซ่าแชงเก้น จะบังคับให้ผู้ยื่นขอวีซ่า ทำประกันการเดินทางก่อนยื่นเอกสาร และประกันการเดินทางเป็นหนึ่งในเอกสารที่ต้องแนบต่อสถานทูต เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า หากผู้เดินทางได้รับอุบัติเหตุ หรือการเจ็บป่วยนั้น ผู้เดินทางจะมีวงเงินค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้น และบริษัทประกันภัยมีหน้าที่รับผิดชอบค่าใช้ โดยปกติวีซ่าแชงเก้น จะให้เราทำประกันการเดินทางด้วยวงเงินประกันมากกว่าหรือเท่ากับ 30,000 ยูโร ขึ้นไป หรือถ้าให้เทียบเป็นเงินบาทไทย จะอยู่ที่ 1.5 ล้านบาทค่ะ โดยเบี้ยประกันจะขึ้นอยู่กับจำนวนวันที่มากน้อย และประเทศที่เราต้องการเดินทางค่ะ

ตัวอย่างแผนประกันภัยในการเลือกซื้อ 

ขอบคุณข้อมูลจาก MSIG: https://psmart.msig-thai.com/directmsig/travel/plan

ตัวอย่าง ตารางแผนประกันการเดินทาง ที่จะบอกว่าแต่ละแผนมีความแตกต่าง และวงเงินคุ้มครองต่างกันอย่างไร

หมวดที่เราอาจจะได้ใช้จริงมากที่สุด จะเป็นหมวดหมู่ของค่ารักษาพยาบาล การล่าช้าของเที่ยวบิน การพลาดต่อเที่ยวบิน ความเสียหายของการเป๋าเดินทาง หรือทรัพย์สินส่วนตัว โดยบริษัทประกันจะจ่ายค่าความเสียหาย ตามแผนประกันที่เราเลือกซื้อไว้ 

จากบทความก่อนหน้า ท่องยุโรปวุ่นวาย เหมือนตายวันแรก แสดงให้เห็นถึงปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเที่ยวบินล่าช้า เกือบห้าชั่วโมง และการไปติดที่โอมาน เพื่อต่อเครื่องไปยังฝรั่งเศสอีกเกือบ 48 ชั่วโมง 

จากปัญหาดังกล่าว เราเลยได้ทำการขอเคลมทั้งสายการบิน และขอเคลมจากประกันการเดินทางที่เราได้ทำไว้ โดยเราได้ซื้อประกันการเดินทางของ MSIG ตอนนั้นจากการค้นหา MSIG เป็นเจ้าที่เคลมง่ายสุดหากเราประสบปัญหา ซึ่งในความเป็นจริงก็เคลมง่าย เจ้าหน้าที่ตอบไว เราส่งอีเมลไปตอนติดปัญหาที่โอมาน อีกวันนึงก็ตอบกลับมาแล้ว รวมถึงการโทรสอบถามข้อมูลต่างๆก็ให้ข้อมูลชัดเจน รวดเร็ว และบริการอย่างดี อวยแบบไม่มีสปอนเซอร์ค่ะ!!

เราได้ขอเคลมกับบริษัทประกัน 2 หมวด คือ การพลาดต่อเที่ยวบิน และกระเป๋าเดินทางเสียหาย (การล่าช้าต่อเที่ยวบินไม่ได้ เนื่องจากล่าช้าไม่ถึง 6 ชั่วโมง) หลังจากยื่นเอกสารครบทั้งหมด ไม่เกิน 15 วัน เงินก็โอนเข้าบัญชีที่เราได้ให้ไว้กับบริษัทประกัน 🙂 

การเคลมประกันการเดินทางมีขั้นตอน ดังนี้

1. เก็บข้อมูลทั้งหมดไว้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ต่างๆ เช่น เที่ยวบินล่าช้า ให้เก็บหลักฐานทั้งหมด เช่น ตั๋วเดินทาง ทั้ง E-itinerary และ Boarding Pass ตัวจริงเอาไว้ และถ้าให้ดีเราอาจจะถ่ายหน้าจอที่แสดงเวลาไฟร์ทของเรา ที่มีการเลื่อนติดไว้ด้วย (ถ้าลืมก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่ถ้ามีขั้นตอนการพิจารณ์ขอเคลมก็อาจจะง่ายขึ้น) 
2. ทำการขอเอกสารรับรองต่างๆ เช่น เอกสารรับรองการพลาดต่อเที่ยวบิน เราขอได้เลย ที่เคาร์เตอร์สายการบินที่สนามบิน หรือไม่ก็ อีเมลให้สายการบินรับรองมาให้ 
   • เอกสารรับรองการเสียหายของทรัพย์สิน สามารถขอได้ที่สนามบินตรง Baggage claim เช่นกัน หรือถ้ามาเจอสภาพกระเป๋าตอนถึงที่หมายแล้ว ก็สามารถถ่ายรูปไว้ หรือแนบใบเสร็จราคากระเป๋า
     • เพิ่มเติม ซื้อกระเป๋าเดินทางอย่าลืมขอใบเสร็จไว้นะคะ  ตอนเคลมได้เช่นกัน 

3. ทำการติดต่อบริษัทประกัน ถ้าไม่มั่นใจว่าเคลมหมวดไหนได้บาง ให้อีเมลบอกรายละเอียดทั้งหมดที่เกิดขึ้น กับบริษัทประกันภัย เช่น เที่ยวบินเกิดการล่าช้า และมีการพลาดเที่ยวบินเกิดขึ้น หรือแม้แต่รวมถึงทรัพย์สินส่วนตัวเกิดความเสียหาย เช่น กระเป๋าเดินทางเสียหาย หรือแม้แต่ของหายก็ดี 
4. บริษัทประกันจะทำการขอข้อมูล โดยให้เรากรอกรายละเอียดในแบบฟอร์ม และแนบข้อมูลสมุดบัญชีธนาคารที่รับเงินค่าเสียหาย ซึ่งข้อมูลที่เราต้องกรอก ส่วนมากจะอ้างอิงจากข้อมูลของเราจาก E-itinerary และ Boarding Pass ค่ะ 
   • เพิ่มเติม กรณีเจ็บป่วย บริษัทประกันส่วนมากจะมีเบอร์ Hotline และโทรฟรี เราสามารถโทรปรึกษาบริษัทประกันก่อนเข้ารับการรักษาได้ 
   • นอกจากนี้ในส่วนที่อยากเพิ่มเติม คือ โรคอุบัติใหม่โควิด อยากให้เช็คแผนประกัน หรือสอบถามบริษัทประกันก่อนว่าครอบคลุมหรือไม่ หากป่วยหนัก เราจะได้ไปโรงพยาบาลได้ทันที

รายละเอียดเอกสารที่ยื่นขอเคลม ตัวอย่างเช่น

กรณีเรียกร้องสินไหมในหมวดการล่าช้าของเที่ยวบิน เอกสารที่ใช้ในการเบิกสินไหม ดังนี้

1. เคลมฟอร์มเรียกร้องสินไหมประกันการเดินทาง (ไฟล์แนบ จากบริษัทประกัน)
2. จดหมายแจ้งจากสายการบินพาณิชย์นั้นๆ ระบุถึงการล่าช้า
3. ตั๋วเครื่องบิน, Boarding Pass, Electronic Ticket ( E-ticket ), Electronic Itinerary ( E-itinerary ) ทั้งหมด
4. สำเนา Passport
5. สำเนา Book Bank และสำเนาบัตรประชาชน ของเรา (กรณีรับสินไหมโดยโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร)

กรณีเรียกร้องสินไหมในหมวดการพลาดการต่อเที่ยวบิน ดังนี้

1. เคลมฟอร์มเรียกร้องสินไหมประกันการเดินทาง (ไฟล์แนบ จากบริษัทประกัน)
2. หนังสือยืนยันการพลาดการต่อเที่ยวบินและระบุสาเหตุของการพลาดการต่อเที่ยวบินซึ่งออกโดยผู้ขนส่ง
3. ตั๋วเครื่องบิน, Boarding Pass, Electronic Ticket ( E-ticket ), Electronic Itinerary ( E-itinerary ) ทั้งหมด
4. สำเนา Passport
5. สำเนา Book Bank และสำเนาบัตรประชาชน ของเรา (กรณีรับสินไหมโดยโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร)

กรณีเรียกร้องสินไหมความเสียหายของกระเป๋าเดินทาง ดังนี้

• เคลมฟอร์มเรียกร้องสินไหมประกันการเดินทาง (ไฟล์แนบ จากบริษัทประกัน)
• เอกสารยืนยันความเสียหายของกระเป๋าเดินทางที่ออกโดยผู้ขนส่ง (damage report or property irregularity airport)
• ราคา และรูปภาพของกระเป๋าใบที่เสียหายเพิ่มเติม
• สำเนาบัตรประชาชน
• สำเนา Book Bank และสำเนาบัตรประชาชน ของเรา (กรณีรับสินไหมโดยโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร)
• เอกสารที่ออก โดยบริษัทผู้ผลิตกระเป๋า รับรองความเสียหายให้ก็ได้ (เราแนบโดยอันนี้ เพราะลืมขอเอกสารจากสนามบิน) ตัวอย่าง 

ทั้งนี้หากผู้เดินทางท่านใด มีคำถามเกี่ยวกับประกันการเดินทาง เราแนะนำให้ติดต่อหาบริษัทประกันเจ้าที่เราซื้อ โดยตรง เพราะจะได้ข้อมูลที่ถูกต้อง และครบถ้วนค่ะ 

สนุกและมีความสุขกับการเดินทาง โดยอย่าลืมซื้อประกันการเดินทางติดไปด้วยนะคะ